Culture
สงกรานต์ ขุมสมบัติแห่ง
Soft Power ของประเทศไทย
แค่โลกยังอยู่รอดมาตั้งแต่โบราณกาลก็นับเป็นโชคดีของมนุษย์ชาติแล้ว ดั่งตำนานสงกรานต์ที่มีปรากฎในศิลาจารึกวัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามฯ เมื่อพระเศียรท้าวกบิลพรหมแตะแผ่นดิน อากาศ หรือ แม้แต่หยดนำ้หยดเดียวในมหาสมุทร โลกจะล่มสลาย ดังนั้น ธิดาของท้าวกบิลพรหมทั้งเจ็ด หรือที่รู้จักกันว่า นางสงกรานต์ จึงนำพานมารองรับพระเศียรท้าวกบิลพรหม แล้วเก็บรักษาไว้ในเขาไกรลาศ จากนั้นมา ทุกๆปี เมื่อพระอาทิตย์ก้าวขึ้นสู่ราศีเมษ นางสงกรานต์ทั้งเจ็ดจะผลัดกันอัญเชิญพระเศียรท้าวกบิลพรหมแห่ไปรอบเขาพระสุเมรุ ทุกครั้งที่เปิดฉากปีใหม่ เราได้ฉลองการก้าวข้ามวันสิ้นโลกที่กล่าวขึ้นไว้ในตำนาน
การเล่นน้ำในเทศกาลสงกรานต์
Image created by Tourism Authority of Thailand Facebook
English
การฉลองประเพณีสงกรานต์ที่สืบทอดมาตั้งแต่สมัยโบราณ ก็คล้ายกับวัฒนธรรมอื่นๆที่ฉลองประเพณีวันขึ้นปีใหม่กัน เทศกาลสงกรานต์นี้ อาจเป็นจุดเริ่มต้นใหม่ให้ใครหลายคน และเป็นโอกาสขับไล่สิ่งไม่ดีออกไป ด้วยประเพณีต่างๆ เช่น การเข้าวัด ทำความสะอาดบ้าน และทำบุญให้บรรพบุรุษ รวมทั้งยังมีการปล่อยนกปล่อยปลา และรดน้ำดำหัวผู้ใหญ่ ซึ่งประเพณีเหล่านี้ ได้ถูกถ่ายทอดจากคนรุ่นหนึ่งไปสู่คนอีกรุ่นหนึ่ง โดยยังคงไว้ไม่เปลี่ยนแปลงไปมากนัก
ปัจจุบันนี้เทศกาลสงกรานต์มีชื่อเสียงก้องโลก รัฐบาลประชาสัมพันธ์เทศกาลนี้ให้กลายเป็นภาพลักษณ์ของเทศกาลเล่นสาดนำ้ที่คึกคักสนุกสนาน สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวจำนวน 500,000 คนมาเล่นนำ้สงกรานต์บนท้องถนนกรุงเทพฯ และในจังหวัดอื่นๆทั่วประเทศทุกปี พูดอีกอย่างหนึ่งก็คือ สงกรานต์เป็นขุมสมบัติแห่งซอฟต์พาวเวอร์ ในปี 2024 นี้ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) คาดว่าจะมีเงินสะพัดถึง 2.44 หมื่นล้านบาท
การรดน้ำดำหัวในเทศกาลสงกรานต์
Image created by Tourism Authority of Thailand Facebook
จากที่ผ่านมา เทศกาลสงกรานต์ได้รับการตอบสนองอย่างดีจากประชากรทั่วโลก รัฐบาลไทยจึงตัดสินใจเน้นกิจกรรม และเรื่องราว ที่โน้มน้าวให้ผู้คนในประเทศอื่นๆสนใจมาเที่ยวเมืองไทยช่วงสงกรานต์และมาร่วมสนุกสนานกับประเพณีไทย
ในปี 2023 ยูเนสโกได้จ่อประกาศ "สงกรานต์ไทย" ขึ้นทะเบียนมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมฯ นอกจากนี้ ในปี 2021 "เทศกาลสงกรานต์ไทย" ได้รับการคัดเลือกจาก International Festivals & Events Association Asia (IFEA) ให้เป็น 1 ใน 3 เทศกาลสำคัญของเอเชียด้วย
ดังนั้น เทศกาลสงกรานต์เป็นวัฒนธรรมไทยที่ก้าวขึ้นเวทีโลกแล้ว ดั่งที่ ฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย กล่าวว่า "เพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์เทศกาลสงกรานต์ให้เป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวทั่วโลก และร่วมเฉลิมฉลองในโอกาสที่องค์การยูเนสโก ได้ประกาศขึ้นทะเบียน "สงกรานต์ในประเทศไทย" เป็นรายการในบัญชีตัวแทนมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติ"
การรดน้ำพระพุทธรูปในเทศกาลสงกรานต์
Image created by Tourism Authority of Thailand Facebook
การเล่นน้ำในเทศกาลสงกรานต์
Image created by Tourism Authority of Thailand Facebook
ททท. ได้จัดกิจกรรมหลากหลายอย่างให้ทั้งคนไทยและต่างชาติร่วมสนุกในเทศกาลสงกรานต์ มีขบวนรถพาเหรดมหาสงกรานต์กว่า 20 ขบวน แล้วยังมีการแสดงศิลปวัฒนธรรมจากนักแสดงกว่า 1000 คนอีกด้วย ตลอดในช่วงวันที่ 11-15 เมษายน ณ บริเวณถนนราชดำเนินกลาง และท้องสนามหลวง
เทศกาลสงกรานต์ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายจากชาวต่างชาติในทั่วทุกทวีปของโลก กระทรวงวัฒนธรรมของประเทศไทยจึงได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของการอนุรักษ์วัฒนธรรม เพื่อให้ผู้ร่วมสนุกยังคงได้รู้จักและเรียนรู้ ประวัติ เอกลักษณ์ และ ความหมาย ของประเพณีนี้ รวมถึงธุรกิจทุกแขนง จะร่วมมีบทบาทสร้างชื่อเสียงให้เทศกาลนี้ ได้อย่างไรบ้าง
การเล่นน้ำในเทศกาลสงกรานต์
Image created by Tourism Authority of Thailand Facebook
นักท่องเที่ยวสมัยนี้ เริ่มแสวงหาประสบการณ์ทางวัฒนธรรมที่ดั้งเดิมผ่านการท่องเที่ยวมากขึ้น ทางเราจึงแนะนำให้ธุรกิจในแหล่งท่องเที่ยวถ่ายทอดเรื่องราวเกี่ยวกับมรดกทางวัฒนธรรมของประเทศไทย ผ่านสินค้า และ บริการ ตามเทรนด์การท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม (cultural tourism) เพื่อสามารถจูงใจนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกได้มากขึ้น โดยต้องเรื่มต้นจากการศึกษาธรรมเนียม ประวัติศาสตร์ และ ค่านิยมของชุมชนในพื้นที่ พบกับผู้ถ่ายทอดวัฒนธรรมต่างๆ เช่น ศิลปิน นักประวัติศาสตร์ หรือผู้นำชุมชน นอกจากจะได้ข้อเท็จจริงที่ถูกต้องและลึกซึ้งแล้ว จะช่วยสร้างสายใยความผูกพันธ์กับชุมชนในพื้นที่ ธุรกิจเหล่านี้ ยังได้มีบทบาทในการฟื้นฟูเศรษฐกิจท้องถิ่น ทั้งเม็ดเงินและความภูมิใจ เปิดช่องทางท่องเที่ยวแบบใหม่เป็นตัวเลือกให้ลูกค้า พร้อมร่วมฉลองและอนุรักษ์ประเพณีอันงดงามของประเทศไทยไปพร้อมๆ กัน